สิงคโปร์ วันที่ 30 พฤษภาคม 2019 – ในปี ค.ศ. 2019 The Last Overland จะสร้างการเดินทางบนถนนอันโด่งดังและท้าทายที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1955 ถึง 1956 ทีมที่ประกอบด้วยชายหนุ่ม 6 คนได้ออกเดินทางในการเดินทางที่ชื่อว่า The Oxford & Cambridge Far Eastern Expedition (The First Overland) และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการขับรถยนต์เป็นระยะทาง 10,000 ไมล์ จากลอนดอนไปสิงคโปร์สำเร็จเป็นกลุ่มแรก 64 ปี ต่อมา ในปัจจุบัน Tim Slessor (อายุ 87 ปี) สมาชิกคนหนึ่งจากการเดินทางสำรวจครั้งแรก พร้อมด้วย Alex Bescoby (อายุ 31 ปี) ผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าของรางวัล จะขับ Oxford Land Rover Series I ปี ค.ศ. 1955 คันเดิมไปในการเดินทางบนถนนเพื่อย้อนรอยการเดินทางสำรวจ The First Overland นั้น
โดยครั้งนี้ พวกเขาจะเดินทางย้อนกลับจากสิงคโปร์ไปลอนดอน ซึ่งพวกเขาจะต้องเดินทางข้ามทวีปถึงสามทวีปด้วยกัน โดยจะต้องเดินทางผ่านป่าของประเทศมาเลเซียและพม่า ผ่านเทือกเขาหิมาลัยและตอนเหนือของตุรกี และผ่านทะเลทรายในตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศ รวมถึงเนปาล จีน อุซเบกิสถาน อิหร่าน และบัลแกเรีย เป้าหมายคือการเดินทางถึงลอนดอนภายในระยะเวลาประมาณ 100 วันนับตั้งแต่ออกเดินทางจากประเทศสิงคโปร์
Grammar Productions อธิบายถึงแผนการของพวกเขาสำหรับการเดินทาง The Last Overland นี้ในระหว่างการเปิดตัวรถยนต์ ‘Oxford’ Land Rover ปี ค.ศ. 1955 รุ่นดั้งเดิมอย่างเป็นทางการ รถคันดังกล่าวได้รับการคืนสภาพอย่างเต็มรูปแบบจากสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม โดยการขนส่งรถจากสหราชอาณาจักรไปยังสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการเผยโฉมที่โชว์รูมของ Jaguar Land Rover ในประเทศสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2019
Tim Slessor พูดถึงความตื่นเต้นในการได้กลับมาพบกับรถยนต์แลนด์โรเวอร์ ‘ออกซ์ฟอร์ด’ คันเก่าของเขาอีกครั้งว่า “ครั้งสุดท้ายที่ผมขับเจ้ารถคันเก่าคันนี้อย่างจริงจัง มันผ่านมานานมาก ดังนั้น การได้เห็นรถคันเก่าอีกครั้งในวันนี้ มันทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะออกเดินทางในครั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้บอกกับเราว่าเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์และไม่ประสีประสาเรื่องการเมืองเลย การเดินทางไม่น่าจะสำเร็จได้ แต่สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกลับทำให้เรามีความมุ่งมั่นมากขึ้น 6 เดือนต่อมา พวกเราเดินทางไปถึงแชมป์เปี้ยน มอเตอร์ (Champion Motors) บนถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) ของสิงคโปร์ ผมบอกคุณได้เลยว่าในวันนั้นพวกเราถูกกระหน่ำไปด้วยแชมเปญและแสงแฟลชจากกล้อง เราทำสำเร็จจนได้ ในขณะที่นักเขียนจากนิตยสารไทม์ (Time) ของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า 'ผมคิดว่าพวกเขาคงเดินทางมาจนสุดทางแล้ว'
Slessor ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้งในอายุปูนนี้ “สิ่งที่ผมตั้งใจไว้ก็คือปลายเดือนสิงหาคมผมจะขับรถคันนี้ออกจากสิงคโปร์กลับไปที่สหราชอาณาจักรอีกครั้ง ขณะที่ผมอายุมากขึ้น ผมถูกรบเร้าด้วยเสียงกระซิบที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ‘ลงมือทำเลย ก่อนที่จะสายเกินไป’
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ผมอายุ 87 ปีแล้ว หากผมไม่ทำเสียแต่ตอนนี้ ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอีกเลย ท้ายที่สุด เมื่อเสียงกระซิบเตือนผมว่า 'คุณมาที่นี่ได้เพียงครั้งเดียว' ดังนั้น ผมหวังว่าจะได้ขับเจ้ารถคันเก่าหมายเลขทะเบียน SNX891 ในเดือนสิงหาคม การเดินทางครั้งนี้ก็คงจะเป็นเหมือนกับ 'ชายชราคนนี้ช่วยพาหญิงชรากลับบ้าน'”
เริ่มออกเดินทางในวันที่ 25 สิงหาคม
การเดินทาง The Last Overland จะเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019 โดยเริ่ม ‘ออกตัว’ จากทางตรงพิท F1 ประเทศสิงคโปร์ในอ่าวมารินา เบย์ เจ้ารถ ‘ออกซ์ฟอร์ด’ จะได้รับการส่งอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีขบวนรถขับตามส่งตลอดเส้นทางในสิงคโปร์ไปจนถึงชายแดนของประเทศที่อยู่ติดกับมาเลเซีย โดยขบวนรถแลนด์โรเวอร์คันอื่นๆ ที่ขับตามมาส่งนั้นขับโดยบรรดาแฟนๆ ของรถแลนด์โรเวอร์ในประเทศ รวมถึงสมาชิกของกลุ่มเจ้าของแลนด์โรเวอร์ในสิงคโปร์
คุณ Chang Chee Pey ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ International Group กล่าวว่า “การเดินทาง The Last Overland มีการกำหนดเวลาไว้อย่างเหมาะสมพร้อมกับพิธีฉลองครบรอบ 200 ปีสิงคโปร์ในปีนี้ เป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสิงคโปร์กับสหราชอาณาจักร ในขณะที่เน้นถึงจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือระหว่างสองประเทศของเรา การเดินทางครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนถึงแบรนด์ของ STB ความหลงใหลสร้างความเป็นไปได้ Tim และ Alex คือเครื่องพิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ คุณก็มีพลังในการทำสิ่งที่คุณรักในเมืองที่ความเป็นไปได้ไม่รู้จบแห่งนี้ และ STB รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนทีมขณะที่พวกเขาเริ่มต้นออกเดินทางเพื่อไล่ตามความหลงใหลของตน”
Robin Colgan กรรมการผู้จัดการ Jaguar Land Rover ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “ที่นี่ที่แลนด์โรเวอร์ กำหนดให้ต้องอ่านหนังสือการเดินทางครั้งแรกเริ่มของ Tim และความคิดของการย้อนรอยการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่นี้หลังจากเวลาผ่านไป 64 ปี ได้สร้างความประทับใจให้เราตื่นเต้นจริงๆ” เขากล่าวเสริมว่า “บุคลิกลักษณะของแลนด์โรเวอร์คือการ ‘ก้าวข้ามสู่ความเหนือระดับ’ และรถยนต์ของเราปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยเสมอมา เราหวังว่าการเดินทางของพวกเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักเดินทางรุ่นใหม่ไล่ตามการผจญภัยของตัวเอง”
THE FIRST OVERLAND
ทริปนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางข้ามทวีปแอฟริกาโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยออกฟอร์ดและมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในปี ค.ศ. 1954 นักศึกษามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ 6 คนเดินทางด้วยรถยนต์แลนด์โรเวอร์สองคันที่ชื่อว่า 'ออกซ์ฟอร์ด' และ 'เคมบริดจ์' คณะเดินทางได้เดินทางข้ามทะเลทรายที่เต็มไปด้วยฝุ่นของประเทศอิหร่านผ่านทางตอนเหนือของอินเดีย (ซึ่งเคยเป็นขีดจำกัดของการเดินทางทางบกใดๆ จากลอนดอนมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันออก) ลุยข้ามลำธารและแม่น้ำที่อันตรายผ่านพม่า (เมียนมาร์สมัยใหม่) และไปตามเส้นทางที่ถูกขนานนามว่าสหพันธรัฐมาลายา เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์ในปี ค.ศ. 1956 การเดินทางครั้งนั้นได้ถูกพาดหัวข่าวไปทั่วโลก โดยได้มีการถ่ายทำการเดินทางครั้งนั้นเป็นสารคดีของ BBC ถึงสามเรื่องโดย Sir David Attenborough ซึ่งแสดงให้เห็นถึงซอกมุมที่ห่างไกลของโลกหลายแห่งในรูปแบบภาพยนตร์เป็นครั้งแรก รวมถึงหนังสือที่เขียนโดย Tim Slessor Sir David Attenborough ได้เขียนถึงการเดินทางในครั้งแรกโดยอธิบายว่ามันเปรียบเสมือน “การผจญภัยที่บ้าระห่ำ” ซึ่งอาจถือเป็น “เรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน”
THE LAST OVERLAND
การผจญภัยของออกซ์ฟอร์ดไม่ได้สิ้นสุดในปี ค.ศ. 1956 ในเวลาต่อมา รถยนต์คันนี้ได้เข้าร่วมการเดินทางสำรวจเกาะอัสเซนชันและถูกซ่อนไว้จนชำรุดทรุดโทรมบนเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้มานานหลายทศวรรษก่อนที่จะได้รับการกู้คืนและคืนสภาพโดย Adam Bennett ในปี ค.ศ. 2017 Adam ผู้ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความหลงใหลในเรื่องราวของ The First Overland ได้มอบรถแลนด์โรเวอร์คันนี้เป็นของขวัญแก่ Tim และd Alex สำหรับการผจญภัยครั้งล่าสุดนี้ The Last Overland จะเผยให้เห็นว่าโลกใบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใดนับตั้งแต่การเดินทางใน The First Overland โดยผ่านสายตาของนักเดินทางสองรุ่นที่แตกต่างกัน และผู้คนที่ได้พบปะตลอดเส้นทาง
คณะเดินทางจะมาพร้อมกับทีมที่ปรึกษามืออาชีพ ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์แลนด์โรเวอร์ และผู้เชี่ยวชาญการเดินทาง ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ของยานยนต์และการผจญภัย
บริษัทรักษาความปลอดภัย AKE International และสำนักงานของบริษัทในลอนดอนและสิงคโปร์จะให้การสนับสนุนคณะเดินทางด้วยอุปกรณ์นิรภัย การติดตามด้วยดาวเทียม และการให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยง Richard Mitchelson ประธานกรรมการบริษัท AKE กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนการเดินทาง The Last Overland เนื่องจากพวกเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันที่สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะ 'ระดับแนวหน้า' ขององค์กรของเรา นอกจากนี้ การเดินทางครั้งนี้ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่สำคัญของเราในสถานที่ที่ท้าทายที่สุดในโลกอีกด้วย การจัดการการเดินทางที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการวางแผนและการวิเคราะห์อย่างละเอียด เราหวังเพียงแค่ได้กระโดดขึ้นรถแลนด์โรเวอร์ของ AKE และร่วมผจญภัยไปตลอดการเดินทาง!”
นอกจากนี้ การเดินทางครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนที่สำคัญและกิจกรรมการตลาดในกว่า 20 ประเทศที่ Tim และ Alex จะต้องเดินทางผ่าน Grammar Productions กำลังวางแผนที่จะรวบรวมรถยนต์แลนด์โรเวอร์รุ่นคลาสสิกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในสิงคโปร์และลอนดอน เพื่อนำมาเรียงกันเป็นเส้นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินทาง และเพื่อเฉลิมฉลองเรื่องราวความรักระดับโลกระหว่างแลนด์โรเวอร์กับโลกแห่งยานยนต์
‘ออกซ์ฟอร์ด’ จะขึ้นแสดงที่โชว์รูมของ Jaguar Land Rover ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเวลาออกตัววันที่ 25 สิงหาคม
The Last Overland ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวสิงคโปร์, AKE Group, Jaguar Land Rover เอเชียแปซิฟิก และ Klareco
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม:
https://www.lastoverland.com/